เสี่ยยิงสาวใหญ่ ลูกสาวคุกเข่าขอชีวิต แต่ไม่เป็นผล

เสี่ยยิงสาวใหญ่ ลูกสาวคุกเข่าขอชีวิต แต่ไม่เป็นผล

เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 6 ก.พ.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว มีชาวบ้านมามุงดูจำนวนมาก ภายในห้องนอนพบร่าง น.ส.ชญาน์นันท์ ประสพสุข อายุ 38 ปี เป็นชาว จ.สระแก้ว 

ถูกอาวุธปืนยิงที่ศีรษะ นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ข้างกันพบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นายโสภณ ถิตานนท์ อายุ 67 ปี เสี่ยรับเหมาถมดินในเขตพื้นที่ จ.ชลบุรี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับขวานอนจมกองเลือด เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต ก่อนเคลื่อนย้ายนำส่ง รพ.แต่ทนความเจ็บปวดไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ใกล้กันยังพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบถาม เพื่อนบ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกัน ได้ยินเพียงเสียงปืนดังขึ้นมา 1 ครั้ง แล้วได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิง ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด ไม่นานก็เห็นลูกสาวผู้ตาย วิ่งร้องไห้ออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯเข้าช่วยเหลือดังกล่า

นอกจากนี้ ตำรวจยังได้รับการเปิดเผยอีกว่า ขณะที่เกิดเหตุนั้น ลูกสาวของ น.ส.ชญาน์นันท์ 1 ในผู้เสียชีวิตอยู่ด้วยและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งตอนนี้อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจอย่างหนัก โดยเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุพยายามคุกเข่ายกมือไหว้ขอชีวิตแม่แล้ว จาก นายโสภณ แต่ นายโสภณ ไม่สนใจคำอ้อนวอน และลั่นไกยิงใส่ น.ส.ชญาน์นันท์ จนเสียชีวิต ก่อนหันกระบอกปืนยิงใส่ขมับตัวเองต่อหน้าต่อตา สร้างความสะเทือนใจให้กับเด็กหญิงวัย 13 ปี เป็นอย่างมาก

กองบังคับการปราบปราม โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ,พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก 5 บก.ป., พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น รอง ผกก.5 บก.ป. , พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย  สว.กก.๕ บก.ป. พร้อมด้วย ด.ต.สมบูรณ์ กูลระวัง, ด.ต.ปรีชา แก้วสวัสดิ์, ด.ต.อภิสิทธิ์ พรหมมา, ส.ต.อ.เอกวิทย์ เจริญศักดิ์ และ ส.ต.อ.เบญจรงค์ แก้วนวน ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายวัชรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่  23/2563  ลง  22  ม.ค. 2563  ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม,กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีและบุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้โดยปราศจากเหตุอันสมควรพรากและพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีและผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล” จับกุมได้ที่ บ้านกำโหม หมู่ที่ ๓ ตำบลตลิ่งชัน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 09.30 น.

สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๒ มารดา และ บิดา ของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ ๑๖ ปี ซึ่งเป็นผู้พิการทางสมอง พบว่า ด.ญ.เอฯ ไม่ได้อยู่ที่บ้านพัก จึงได้ออกตามหาแต่ไม่พบ ต่อมาเมื่อ ด.ญ.เอฯ กลับมาที่บ้านพัก สอบถาม ด.ญ.เอฯ ได้ความว่า ผู้ต้องหา (ซึ่งเป็นสามีของพี่สาวของ ด.ญ.เอฯ) ได้พา ด.ญ.เอฯ ไปร่วมเพศมา จึงได้สอบถามต่อจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้พา ด.ญ.เอฯ ไปร่วมเพศมาแล้วจำนวนหลายครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อเดือน พฤจิกายน พ.ศ.2560 เรื่อยมาจนกระทั้งครั้งล่าสุดคือ เมื่อคืนวันที่ 18 ธันวาคม 2562 รวมจำนวน 6 ครั้ง โดยผู้ต้องหา จะอาศัยความพิการทางสมองของ ด.ญ.เอฯ ล่อลวง ด.ญ.เอฯ ไปร่วมเพศทุกครั้งในหลายๆสถานที่ เช่น ในสวนยางพาราหรือบ้านร้าง มารดาจึงได้มาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขนอม เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับผู้ต้องหา

จนกระทั่งวันที่ 28 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 09.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๕ บก.ป. สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอาศัยกับน้าเขยที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังติดตามจับกุมได้ที่ บ้านกำโหม หมู่ที่  ๓ ตำบลตลิ่งชัน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ชี้แจงคดี #หลานของผม ทราบผลอาทิตย์หน้า

จากกรณีร้อนแรงทางสังคมสำหรับแฮชแท็ก #หลานของผม ที่ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ โดยเป็นเรื่องราวแอคเคาต์ทวิตเตอร์รายหนึ่งชื่อว่า หลานของผม ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 2 หมื่นคน ได้แอบถ่ายรูปหลานสาว ซึ่งเป็นลูกพี่สาวย้ายมาเรียนในเมือง เลยได้พักอยู่กับตน โดยมีการโพสต์ข้อความและภาพอนาจาร เจ้าของบัญชีบอกว่า ได้ทำการซ่อนกล้องขนาดเล็ก เพื่อเจตนาแอบถ่ายหลานสาวตัวเองในอิริยาบถต่างๆ ภาพที่ปรากฏลักษณะหญิงสาวนอนอยู่บนเตียง โดยที่ยังสวมใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลาย

ล่าสุดวันนี้ (29 ม.ค.) พล.ต.ท. จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้รายงานว่า คดีตั้งแต่กลางปี 58 ถึงสิ้นปี 62 มีทั้งหมด 210 คดี จำแนกเป็นข้อหาก่อน ยังไม่แยกตามเด็กผู้ชาย ผู้หญิง มีข้อหาการค้ามนุษย์ 38 คดี ข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ  26 คดี ครอบครองสื่อลามกเด็ก 86 คดี ถูกทำร้ายหรืออนาจาร อยู่ในข้อหาอื่น อันนี้เป็นเพียงสื่อลามกออนไลน์

หากเป็นรูปในลักษณะถูกเนื้อต้องตัว เป็นคดีที่ความผิดตามกฎหมายอาญาทั่วไป ถ้าเป็นสื่อออนไลน์ต้องดำเนินการในลักษณะพิเศษ อย่างคดีน้ากับหลานกำลังดำเนินการอยู่ คดีนี้เข้าข่ายข้อหาใดยังไม่สามารถพูดได้ เพราะข้อหาจะเปลี่ยนไปตอนใส่ข้อเท็จจริง แต่เป็นความผิดแน่นอน ทั้งการผลิต ส่งต่อสื่อลามก แค่ครอบครองก็ผิดแล้ว หลักฐานกำลังตรวจสอบอยู่

หลักฐานอื่นบอกไม่ได้เดี๋ยวเขาทำลายหลักฐาน เรากำลังทำงานอยู่อย่างเต็มที่ ทางครอบครัวผู้เสียหายไม่ต้องแจ้งความ คดีนี้ถือว่าเป็นความผิดต่อรัฐ พนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเป็นผู้เสียหายเองได้ ไม่ต้องรอ เดี๋ยวพยานหลักฐานจะเสียหาย จึงต้องดำเนินการทันที ส่วนเด็กจะรู้เรื่องหรือไม่ก็ตาม จะยินยอมหรือไม่ก็ตามถือเป็นความผิด นอกจากน้าแล้วยังไม่ทราบว่ามีใครมีความผิดบ้าง รายละเอียดอื่นๆ กำลังตรวจสอบอยู่ อาทิตย์หน้าน่าจะทราบ ต้องเป็นไปตามขั้นตอน เรื่องติดต่อผู้เสียหายไม่ขอตอบ แต่ไม่ยาก

แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร