เบญจา ส.ส. พรรคก้าวไกล เสนอปฏิรูปงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ ยกตัวอย่างหน่วยงานรับงบฯ เอาข้อมูลเท็จมาใช้กับโครงการพระราชดำริ วานนี้ 1 มิ.ย. 2564 วันที่สองของการประชุมสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจําปี 2565 ช่วงกลางคืน เบญจา แสงจันทร์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้อภิปรายงบประมาณส่วนที่ระบุว่าเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ใน ขออย่านำสถาบันฯ มาเป็นเกราะกำบังจัดทำรายงานที่เป็นเท็จ นำเอาข้อมูลเท็จมาใช้กับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จนอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพลักษณ์ ของสถาบัน โดยระบุมีงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันอยู่อย่างน้อยๆ 33,712 ล้านบาท เป็นรายการตามที่แสดงเป็นชื่อโครงการในเอกสารงบประมาณ ยังไม่ได้รวมงบที่เกี่ยวข้องกับสถาบันที่อาจซ่อนอยู่ในหมวดหมู่โครงการก่อสร้างที่มีราคาต่อหน่วยต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรืออื่นๆ ในจำนวนนี้
แบ่งงบออกได้เป็น 5 ประเภท คือ
1. งบพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
2. งบถวายความปลอดภัย
3. งบส่วนราชการในพระองค์
4. งบโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการหลวงต่าง ๆ
5. งบอื่น ๆ เช่น พระราชทานเพลิงศพ เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ส.ส. เบญจา กล่าวว่า เงินจำนวน 33,712 ล้านบาทไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด ประเด็นคือ แต่ละโครงกาารควรมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เหมาะสม โปร่งใส และตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสถานการณ์ที่งบประมาณถูกปรับลด ประชาชนทั้งประเทศต้องดำรงชีวิตอยู่ยอย่างลำบากยากแค้น สภาพเศรษฐกิจดิ่งเหว ถ้าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่จัดลำดับความสำคัญของงบประมาณหรือจัดสรรงบประมาณซ้ำซ้อน การจัดสรรงบเช่นนี้ยิ่งถือเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
ส.ส. เบญจา ยังได้ยกตัวอย่างที่เธอเองได้อภิปรายถึงงบประมาณ เมื่อปี 64 ซึ่งเป็นงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ในส่วนที่เกี่ยวกับหน่วยรับงบฯ ที่มีการตั้ง งบประมาณซ้ำซ้อนเข้ามา โดยเฉพาะโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการหลวงต่างๆ ที่ใช้เงินมากกว่า 15,000 ล้านบาท ปรากฏ อยู่มากกว่า 50 โครงการ ผ่านหน่วยรับงบกว่า 30 กรม และอีกกว่า 7,000 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระจายอยู่ใน 7 แผนงาน
บางโครงการรัฐบาลได้รับพระราชทานพระราชดำริ บางโครงการมีประชาชนถวายฎีกาเข้ามา แต่หลายครั้งโครงการเหล่านี้ได้รับพระราชทานพระราชดำริมาเมื่อหลาย 10 ปีก่อน จึงอาจต้องมีการศึกษาใหม่หรือไม่ว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงจากอดีตมากน้อยเพียงใด
ส.ส. เบญจา ยังพบว่าหน่วยงานรับงบฯและหน่วยงานราชการบางหน่วย พยายามผลักดันโครงการโดยไม่ได้ศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพพื้นที่อย่างถ่องแท้ ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง ต่อต้านจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่
โดยได้ยกตัวอย่างเอกสาร โครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว ที่คณะกรรมาธิการงบประมาณเมื่อปีที่แล้วเสนอให้ตัดงบประมาณ ซึ่ง กรมชลประทานฯ เร่งรีบจัดทำเพื่อผลักดันการสร้างอ่างเก็บน้ำหมืองตะกั่ว
แต่ปรากฏมีข้อผิดพลาดในเอกสารบางอย่าง ความผิดพลาดนั้นคือการที่กรมชลประทานจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.พัทลุง แต่มีการคัดลอกเอารายงานของจังหวัดเพชรบูรณ์มาเปลี่ยนชื่อเป็นของจังหวัดพัทลุง แล้วลืมแก้ไขข้อมูลพื้นฐานสำคัญอย่าง ลักษณะทางภูมิศาสตร์และพืชเศรษฐกิจหลัก จนถูกประชาชนทั่วไปจับผิดได้ แม้กรมชลประทานฯ จะอ้างว่าเป็นรายงานฉบับเก่า
แต่จะเป็นฉบับเก่าหรือใหม่ สาระสำคัญ คือ การจัดทำรายงานที่เป็นเท็จ ซึ่งการเอาข้อมูลเป็นเท็จมาใช้กับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับสถาบันพระมหากษัตริย์ การแอบอ้างเช่นนี้เหมาะสมแล้วหรือไม่ และจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพลักษณ์ของสถาบันฯ เสื่อมเสียไปถึงพระเกียรติยศขององค์พระมหากษัติรย์หรือไม่
‘ทักษิณ’ ซัด ‘ประยุทธ์’ หลังอ้างกู้เงินใช้หนี้ จำนำข้าว
ทักษิณ พูดซัด ประยุทธ์ หลังนายกฯอ้างหนี้สาธารณเพิ่มขึ้น เพราะต้องกู้เงินใช้หนี้ จำนำข้าว ชี้คิดเป็นแค่ 10% ของเงินที่กู้มา นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาโต้ตอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังจากที่นายกฯ อ้างว่าต้องกู้เงินเยอะเพื่อมาใช้หนี้จำนำข้าว 7 แสนล้านบาท ระหว่างการสนทนา CARE คิด เคลื่อน ไทย ทางคลับเฮาส์
โดย อดีตนายกฯ กล่าวว่า เงิน 7 แสนล้านเป็นสัดส่วน 10 เปอร์เซนต์ของเงิน 7 ล้านล้านที่รัฐบาลกู้มา และถ้าไปคำนวณให้ดี ๆ เงินที่อ้างว่าใช้หนี้จำนำข้าวไป 5 แสนล้านแล้วนั้น จริง ๆ ไม่ถึงหรอก
ยังมีกรณีที่เกิดหลังรัฐประหาร เอาข้าวดีไปขายเป็นข้าวเน่าอีก ถ้าไม่เอาข้าวดีขายกับข้าวเน่า ไม่กลั่นแกล้ง ไม่ขาดทุนหรอก 7 แสนล้าน เป็นธรรมชาติที่รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกร ทุกชาติต้องทำ แต่ที่ขาดทุนเพราะรัฐบาลที่เลือกตั้งถูกเตะออก แล้วเอาข้าวเน่ามารวมขาย คงเป็นเรื่องการเล่นงาน เป็นการไม่บริหารให้ถูกต้อง
โดยระหว่างการประชุมสภาเพื่อหารืองบประมาณปี 65 นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ที่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น โดยกล่าวในช่วงหนึ่งว่า “ผมใช้หนี้จำนำข้าวไปเท่าไหร่ ไม่อยากจะย้อนกลับ แต่ใช้หนี้ไปแล้ว 7 แสน 5 พันล้านบาท เหลือภาระหนี้อีก 2.8 แสนล้านบาท ต้องใช้อีก 12 ปีถึงจะหมด”
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร